จนถึงทุกวันนี้ ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่กู้กงออกแบบนั้นมีมากกว่า 10,000 ชนิด และยอดขายสูงเกิน 2,300 ล้านหยวน แล้วรายได้เหล่านี้ถูกนำไปใช้ที่ไหนกัน
นายซั่น จี้เสียง ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์วังกู้กงให้คำตอบว่า รายได้ที่ได้มานั้น ส่วนใหญ่ใช้กับเด็ก เพราะเขาเห็นว่า ผลิตภัณฑ์เป็นเพียงเครื่องรองรับวัฒนธรรม กู้กงจึงให้ความสำคัญกับการให้การศึกษามากเป็นพิเศษ ซั่นจี้เสียงกล่าวว่า ทางกู้กงได้ร่วมมือกับโรงเรียนต่างๆ เปิดคอร์สพิเศษ ซึ่งทุกคอร์สทางกู้กงก็จะเตรียมวัสดุให้เด็กๆ ออกแบบและทำของเล่นกันเอง แต่ละปี ทางกู้กงจะจัดกิจกรรมแบบนี้กว่า 2 หมื่นครั้ง แต่ละครั้งมีเด็กๆ สมัครเข้าร่วมกันมากมาย เด็กบางคนวาดภาพชุดฮ่องเต้ บางคนทำสร้อยคอพระมเหสีพระสนมกัน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เข้าร่วมฟรีทั้งหมด การใช้รายได้ของกู้กงกับเด็กจำนวนมาก เพราะเชื่อว่า กิจกรรมเหล่านี้ทำให้เด็กๆ เติบโตขึ้นเป็นรุ่นที่รักวัฒนธรรมจีน
นายซั่น จี้เสียงเห็นว่า ความยิ่งใหญ่ของพิพิธภัณฑ์ไม่ได้อยู่ที่ตัวอาคารที่สูงใหญ่ และก็ไม่ได้อยู่ที่วัตถุโบราณที่เก็บรักษาไว้ แต่อยู่ที่ว่าจะสามารถประสานเข้ากับชีวิตประจำวันของผู้คนได้อย่างไร
เมื่อซั่นจี้เสียงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์วังกู้กง เขารับฟังข้อเสนอแนะของนักท่องเที่ยวบ่อยๆ พยายามแก้จุดอ่อนของกู้กง และทำให้นักท่องเที่ยวมีประสบการณ์เที่ยวกู้กงที่ดียิ่งๆขึ้น
ในอดีต การซื้อตั๋วเข้าชมวังกู้กงเป็นเรื่องลำบาก เพราะต้องเข้าคิวอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ซั่นจี้เสียงจึงเพิ่มเคาท์เตอร์ขายตั๋วเป็น 32 ช่อง นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบาย และในอดีต การเข้าห้องน้ำหญิงก็ต้องเข้าคิวยาว ทางกู้กงจึงได้จัดห้องน้ำหญิงมากขึ้นตามสัดส่วนของนักท่องเที่ยวชาย-หญิง และยังได้ปรับปรุงสภาพห้องน้ำให้ดีขึ้นด้วย เพื่อให้อุปกรณ์ทันสมัยเข้ากับบรรยากาศของกู้กง จึงปูพื้นด้วยอิฐลายโบราณ และเปลี่ยนโคมไฟถนนเป็นโคมไฟโบราณด้วย