ช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2013 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเสนอข้อริเริ่มร่วมสร้าง “แถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม” และ “เส้นทางสายไหมทางทะเลศตวรรษที่ 21” หรือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ระหว่างเยือนคาซัคสถาน และอินโดนีเซียตามลำดับ จีนมีสุภาษิตว่า “ต้นท้อและต้นพลัมไม่จำเป็นต้องออกปากพูด แต่แรงดึงดูดของมันก็ทำให้ใต้ต้นมีทางเดินเกิดขึ้นเอง” ช่วงหลายปีมานี้ 100 กว่าประเทศและองค์กรระหว่างประเทศได้สนับสนุนและมีส่วนร่วมในการสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก็ได้บรรจุเนื้อหาการสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”อยู่ในมติที่สำคัญ ปัจจุบัน วิสัยทัศน์สร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” กำลังเป็นรูปเป็นร่างที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และประสบความสำเร็จที่น่าพอใจ
ช่วงหลายปีมานี้ การเชื่อมต่อกับนโยบายการพัฒนาระหว่างประเทศต่างๆได้ลงลึกมากยิ่งขึ้นด้วย ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ย้ำในหลายโอกาสว่า การสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”มีเป้าหมายจะเชื่อมต่อกับยุทธศาสตร์การพัฒนาของประเทศต่างๆทั่วโลก ทำให้ประเทศต่างๆ สามารถเกื้อกูลกันโดยอาศัยความได้เปรียบของตน จีนได้เสริมการประสานข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” กับนโยบายการพัฒนาของประเทศที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนโยบายการพัฒนาของประเทศต่างๆเหล่านี้รวมถึงนโยบายสร้างสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซียของรัสเซีย แผนแม่บทการเชื่อมโยงอาเซียน ข้อริเริ่มเส้นทางแห่งความสว่างของคาซักสถาน