วันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 2019 เมื่อ 350 ปีที่แล้ว คือวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 1667 ที่ประเทศจีน ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้น นั่นก็คือ กษัตริย์คังซี ที่ขณะนั้นมีพระชนมายุเพียง 14 พรรษาเท่านั้น ตัดสินใจจะเริ่มปกครองประเทศด้วยองค์เองโดยไม่อาศัยขุนนางชั้นสูงผู้หนึ่งที่ชื่อว่า “เอ๋าปั้ย” ซึ่งเป็นการกระทำที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดข้อขัดแย้งขึ้นมารุนแรงกว่าเดิม จนกระทั่งถึงปี 1669 พระองค์ก็ได้ใช้กลยุทธ์กำจัดเอ๋าปั้ยพ้นทางไปได้สำเร็จ และเริ่มบริหารประเทศอย่างจริงจัง
กษัตริย์คังซี พระนามจริงคือ อ้ายซินเจี๋ยว์หลัว เสวียนเย่ว์ ประสูติเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1654 และสวรรคตเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ปี 1722 เป็นกษัตริย์องค์ที่ 4 หลังก่อตั้งราชวงศ์ชิงขึ้น โดยนับเป็นองค์ที่ 2 หลังจากราชวงศ์ชิงย้ายเมืองหลวงมาตั้งที่กรุงปักกิ่ง อันกล่าวได้ว่าเป็นการเริ่มปกครองจีนอย่างเป็นทางการ โดยตั้งชื่อรัชสมัยของพระองค์เองว่า “คังซี” ที่มีความหมายว่า “สันติภาพและความสงบสุข” และได้ทรงครองราชย์เป็นเวลาถึง 61 ปี ซึ่งถือเป็นกษัตริย์ที่ปกครองประเทศยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์จีน
กษัตริย์คังซี หรือพระราชโอรสเสวียนเย่ว์ เป็นโอรสองค์ที่สามแห่งกษัตริย์ซุ่นจื้อ กษัตริย์องค์ที่ 3 ของราชวงศ์ชิง ซึ่งพระมารดาของพระองค์เป็นพระสนมนางหนึ่งที่ไม่ทรงเป็นที่โปรดปรานเท่าไหร่ ฉะนั้น กษัตริย์ซุ่นจื้อจึงไม่ได้รักโอรสองค์นี้มากนัก และในวัย 7 ขวบ องค์ชายเสวียนเย่ว์ยังติดเชื้อเป็นโรคฝีดาษ แต่โชคดีที่ไม่ได้กระทบถึงชีวิต เหลือเพียงแต่รอยแผลเล็กน้อยบนใบหน้าเท่านั้น