อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งคือ เมื่อมาเจอกับไม้แข็งของประเทศมหาอำนาจแล้ว บริษัทหัวเว่ยสามารถนำแผนสำรองที่เตรียมไว้สำหรับรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดออกมาใช้ทันที แผนสำรองดังกล่าวของหัวเว่ยเริ่มเตรียมมาตั้งแต่เมื่อ 10 กว่าปีก่อน เพื่อรับมือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดและให้บริษัทอยู่รอดได้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า หัวเว่ยมีวิสัยทัศน์ทางยุทธศาสตร์ที่กว้างไกล และมีความพร้อมที่จะรับมือกับทุกสถานการณ์
ช่วง 70 ปี นับตั้งแต่การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน จีนถูกกดดัน กีดกัน หรือปิดล้อมมาโดยตลอด แต่ประชาชาจีนภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนบากบั่นต่อสู้ด้วยความอดทน ใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละ จนพัฒนาประเทศให้มีความเจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข ในกระบวนการดังกล่าว ประชาชนจีนพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ขณะเดียวกัน ก็ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์ในทุกเมื่อ ด้วยเหตุนี้ จีนจึงสามารถผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ ได้ และประสบความสำเร็จเรื่อยมา
ปัจจุบัน จีนกำลังเข้าใกล้เป้าหมายการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ดังเช่นที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เคยกล่าวไว้ว่า การบรรลุเป้าหมายฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ไม่ใช่เรื่องตีฆ้องตีกลองก็สามารถบรรลุเป้าหมายได้ เราต้องใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละ เสริมสร้างจิตสำนึกที่เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายต่างๆ ป้องกันความเสี่ยงและการท้าทายทุกอย่าง
การที่บริษัทหัวเว่ยทำการตอบโต้การกีดกันของสหรัฐฯนั้น ทำให้ชาวจีนตระหนักดีขึ้นว่า การมีแนวคิดเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายต่างๆ ในยามที่ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัยนั้น เป็นแนวคิดที่มีความหมายทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่ง สรุปได้ว่า หากจีนเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์ และทำงานของตนเองให้ดี จีนก็ไม่ต้องกลัวกับสิ่งเลวร้ายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น การกดดัน กีดกัน หรือ ปิดล้อม
(bo/cai)