thai

ร่วมกันต้านโควิดที่นครเซี่ยงไฮ้

cri2022-06-07 21:29:51

ตั้งแต่มีนาคมปีนี้เป็นต้นมา นครเซี่ยงไฮ้ เมืองใหญ่พิเศษของจีน พบสถานการณ์โควิด-19 รอบใหม่อย่างร้ายแรง การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างกว้างขวางรอบนี้ ทำให้เมืองที่เป็นศูนย์กลางทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การเงิน และนวัตกรรมของจีนดังกล่าว ต้องเผชิญกับการท้าทายอย่างไม่เคยมีมาก่อน

แต่ด้วยการรวมใจสู้ภัยของรัฐบาลและผู้คนทั้งสังคมเป็นเวลาหลายเดือน ขณะนี้ความตึงเครียดของสถานการณ์โควิดที่นครเซี่ยงไฮ้นับว่าผ่อนคลายลง ช่วงที่ผ่านมานี้ ความกล้าหาญ ความรับผิดชอบ และความช่วยเหลือแก่กันของผู้คน ได้สะท้อนให้เห็นถึงความอบอุ่นและความยิ่งใหญ่ของเมืองนี้

เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่นครเซี่ยงไฮ้รอบนี้ มีผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการจำนวนมาก แม้ทางการท้องถิ่นพยายามเร่งการก่อสร้างสถานที่แยกกักตัวให้เร็วขึ้น แต่ยังไม่สามารถประกันให้ผู้ติดเชื้อแต่ละคนเข้ารับการกักตัวได้อย่างทันการ ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการจำนวนหนึ่งจึงต้องกักตัวที่บ้านก่อน

เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา ชุมชนแห่งหนึ่งในเขตผู่ตงพบผู้สูงอายุที่ติดเชื้อโควิด-19 คนแรกนับตั้งแต่ปิดล็อคดาวน์ทั้งเขตเป็นต้นมา ซึ่งหลังจากได้ทราบผลตรวจกรดนิวคลีอิกเป็นบวก ทั้งครอบครัวของผู้สูงอายุคนนี้ดำเนินการกักตัวที่บ้านเองอย่างเข้มงวด เพื่อนบ้านทราบว่า ครอบครัวนี้มีเด็กอายุไม่ถึง 1 ขวบ จึงพยายามซื้อยารักษาและสิ่งของจำเป็นให้กับครอบครัวนี้

ในชุมชุมแห่งหนึ่งที่เขตสีว์ฮุ่ย พ่อกับลูกสาวอายุ 6 ขวบติดเชื้อโควิด และดำเนินการกักกันที่บ้านเอง เด็กเป็นไข้ 38.4℃ เนื่องจากขาดยาลดไข้และน้ำดื่มในบ้าน พ่อแม่ของเด็กจึงขอความช่วยเหลือผ่านกลุ่มวีแชท เพื่อนบ้านพากันให้ความช่วยเหลืออย่างแข็งขัน บางคนช่วยหายาลดไข้สำหรับเด็ก บางคนช่วยปรึกษากับหมอเพื่อให้ข้อเสนอที่เหมาะสม บางคนยังส่งน้ำดื่มที่เก็บไว้ให้

ตามข้อกำหนดการควบคุมโรคกรณีฉุกเฉิน ผู้คนในเขตชุมชนนี้ห้ามออกนอกบ้าน เพื่อนบ้านต่างๆจึงวางสิ่งของช่วยเหลือไว้นอกประตูบ้าน เพื่อให้อาสาสมัครนำไปให้ผู้ที่ต้องการ วันถัดไป อุณหภูมิร่างกายเด็กหญิงลดลงถึง 37.7℃ เพื่อนบ้านทั้งหลายจึงโล่งใจได้บ้าง พ่อแม่ของเด็กก็รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่งที่ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านมากมาย

เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เขตชุมชนที่นครเซี่ยงไฮ้หลายพื่นที่ ต่างปรากฏผลตรวจกรดนิวคลีอิกเป็นบวก ตึกบางหลังจึงถูกควบคุมเป็นพิเศษ โดยผู้อยู่อาศัยที่ไม่ได้ถูกส่งเข้าสถานที่กักบริเวณ ต้องอยู่แต่ในบ้านเอง คณะกรรมการเขตชุมชนต้องเสริมงานบริการและป้องกันความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยทั้งหลายอย่างเคร่งครัด

ขณะที่นครเซี่ยงไฮ้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มจำนวนมากขึ้น เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และอาสาสมัครท้องที่ต่างๆทั่วประเทศจำนวนหลายหมื่นคน พากันไปเซี่ยงไฮ้เพื่อช่วยเหลือเมืองใหญ่พิเศษแห่งนี้ในการตรวจกรดนิวคลีอิกและรักษาโรค

สิ่งที่น่าสังเกตคือ เซี่ยงไฮ้ยังแสวงหาวิธีการและช่องทางใหม่ๆในการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพสูง ช่วงที่ผ่านมานี้ เขตชุมชนที่เซี่ยงไฮ้นิยมตั้งกลุ่มวีแชทของเขตเอง แม้กระทั้งผู้อยู่อาศัยในตึกเดียวกันก็มีกลุ่มวีแชทเฉพาะตัว กลุ่มวีแชทเหล่านี้แสดงบทบาทสำคัญในการสื่อสารและจัดการปัญหาอย่างรวดเร็ว

ช่วงที่กักบริเวณที่บ้าน พอพบปัญหาอะไร ผู้คนมักจะส่งข้อความถึงกลุ่มวีแชทเหล่านี้ก่อน เช่น “อาหารชุดของเราส่งถึงหน้าประตูตึกแล้ว อาสาสมัครคนใดช่วยรับนำส่งให้หน่อยได้ไหม” “คุณปู่เป็นไข้สูง ใครมียาลดไข้ ช่วยหน่อยได้ไหม” “ผมซื้อขนมปังได้แล้ว เพื่อนบ้านใครต้องการ เราจะยกให้ โปรดมารับที่หน้าประตูบ้านเรา” ข้อความเช่นนี้จะพบเห็นได้มากมายในกลุ่มวีแชททุกวัน

แขวงเป่ยไช่ เขตผู่ตงเป็นพื้นที่เกิดการแพร่ระบาดโควิดอย่างร้ายแรง พนักงานและเจ้าหน้าที่คณะกรรมการชุมชนในแขวงเป่ยไช่ต้องทำงานยุ่งกว่า 20 วันอย่างไม่ขาดสาย โดยตื่น 6 โมงเช้า และทำงานถึง 4 ทุ่มทุกวัน พวกเขาช่วยซื้อของ รับส่ง และแจกสิ่งของที่จำเป็น ตลอดจนจัดการตรวจกรดนิวคลีอิกให้พลเมือง

เจ้าหน้าที่คณะกรรมการเขตชุมชนถงฝูอีในแขวงเป่ยไช่บอกว่า ช่วงแรกของการควบคุมพิเศษ ผู้คนยังสามารถซื้อผักและอาหารจากซูเปอร์มาร์เก็ตทางเน็ตได้ด้วยตนเอง แต่ช่วงหลังต้องซื้อเป็นกลุ่มเนื่องจากกำลังขนส่งสิ่งของไม่พอ ครอบครัวที่กักตัวในบ้านมีจำนวนมาก ซึ่งต้องการอาหารประเภทผัก เนื้อ นมผง ตลอดจนผ้าอ้อม และสิ่งของต่างๆที่ใช้ในชีวิตประจำวันมากมาย คณะกรรมการเขตชุมชนจึงพยายามช่วยซื้อของด้วยช่องทางต่างๆอย่างสุดความสามารถ

นอกจากนี้ อาสาสมัครหรือพนักงานคณะกรรมการเขตชุมชนยังต้องช่วยซื้อยารักษาโรคแก่ประชาชน พร้อมทั้งรับส่งผู้ป่วยอาการสาหัสหรือผู้ที่ต้องตรวจครรภ์ไปโรงพยาบาลด้วย

ช่วงที่ผ่านมาในนครเซี่ยงไฮ้ เรื่องที่น่าประทับใจมีอีกมากมาย ผู้จัดการมินิมาร์ทในเขตหมิ่นหางคนหนึ่ง เฝ้าอยู่ในร้านเพื่อเปิดขายของตลอด 23 วันโดยไม่ได้กลับบ้าน ส่วนในเขตชุมชนจินซาน สามีภรรยาคู่หนึ่งเป็นบุคลากรงานต้านโควิดไม่มีเวลากลับบ้านทำอาหารให้คุณแม่วัย 78 ปี เจ้าหน้าที่คณะกรรมการเขตชุมชนจึงดูแลเรื่องทำอาหารให้วันละ 2 มื้อ

นอกจากอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่คณะกรรมการเขตชุมชนแล้ว นครเซี่ยงไฮ้ยังมีพนักงานวิสาหกิจกลุ่มหนึ่งเป็นอาสาสมัครทำงานมีความเสี่ยงสูงมากต่อสุขภาพชีวิต โดยกลุ่มบริษัท Sinopharm ตั้งทีมอาสาสมัครเยาวชน เพื่อรับผิดชอบการส่งยาเกือบ 50% ของชาวเซี่ยงไฮ้ทั้งเมือง ที่ซื้อจากโรงพยาบาลอินเตอร์เน็ต

ก่อนหน้านี้ บริษัทโลจิสติกส์และบริษัทส่งด่วนจำนวนมากถูกระงับกิจการเนื่องจากสถานการณ์โควิด ยารักษาโรคจำนวนมากจึงติดค้างในคลังเพราะกำลังขนส่งไม่พอ แต่ใบสั่งยาแต่ละใบเหล่านี้เป็นยาสำคัญของผู้ป่วย บริษัท Sinopharm จึงระดมจัดตั้งทีมส่งด่วนอาสาสมัคร ซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารและพนักงานทั่วไปกว่า 50 คน เพื่อส่งยาถึงพลเมืองเซี่ยงไฮ้ทุกวัน

งานส่งด่วนนี้เป็นงานหนัก ซึ่งมักจะเลิกงานหลัง 5 ทุ่ม อาสาสมัครบางคนถึงที่พักแล้วพบว่า เข้าที่พักไม่ได้เนื่องจากผลตรวจกรดนิวคลีอิควันเดียวกันไม่ได้ออกมา จึงนั่งพักในรถทั้งคืน วันถัดไปยังทำงานต่อ

การเอาชนะโควิดต้องการความพยายามของทุกคน แม้เป็นผู้ป่วยก็หวังจะอุทิศกำลังของตนด้วย ในโรงพยาบาลสนามบริเวณหอนิทรรศการเอ็กซ์โปเซี่ยงไฮ้ ผู้ป่วย 180 คนเห็นใจเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ทำงานหนัก และกลายเป็น “อาสาสมัคร” โดยช่วยแจกอาหารชุดมื้อละ 2,600 ชุดในทุกวัน

Yim/Sun

Close
Messenger Pinterest LinkedIn