หลายประเทศทั่วโลกใช้ธัญญาหารในการผลิตเชื้อเพลิง

น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพส่วนใหญ่ประกอบด้วยไบโอเอทานอลและไบโอดีเซล ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกหันมาใช้ธัญญาหารเป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ

สหรัฐฯ เป็นประเทศผลิตเอทานอลมากเป็นอันดับหนึ่งในโลก ในปี 2021 สหรัฐฯ ผลิตเอทานอลได้ประมาณ 45 ล้านตัน มากกว่าร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2020 คาดการณ์ว่าการแปรสภาพไบโอเอทานอลหนัก 1 ตันต้องใช้ธัญญาหารประมาณ 3 ตัน จากสูตรดังกล่าว สหรัฐฯ ได้ใช้ธัญญาหาร จำนวน 135 ล้านตัน ในการผลิตไบโอเอทานอลในปี 2021 ซึ่งคิดเป็น 3 เท่าของปริมาณการผลิตธัญญาหารของออสเตรเลียทั้งปี

ปี 2021 สหรัฐฯ ยังผลิตไบโอดีเซลกว่า 11 ล้านตัน สถิติจากสภาธัญพืชนานาชาติพบว่าระหว่างปี 2020-2021 สหรัฐฯ ได้ใช้ธัญญาหารประมาณ 170 ล้านตันในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ คิดเป็น 47.4% ของยอดปริมาณการบริโภคธัญญาหารของสหรัฐฯ ส่วนธัญญาหารที่ใช้เป็นอาหารของสหรัฐฯ มีจำนวน 32.9 ล้านตัน คิดเป็น 9.2% ของยอดปริมาณการบริโภคธัญญาหารของสหรัฐฯ

ทุกปีบราซิลจะผลิตไบโอเอทานอล 23.4 ล้านตัน ปี 2021 สหภาพยุโรปได้ผลิตไบโอดีเซล 17 ล้านตัน ใช้ธัญญาหารประมาณ 50 ล้านตัน จากสถิติที่ไม่เป็นทางการพบว่า ปี 2021 สหรัฐฯ บราซิล และสหภาพยุโรปได้ใช้ธัญญาหารประมาณ 300 ล้านตันในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ

ปัจจุบันมีประเทศทั่วโลกจำนวนกว่า 10 ประเทศกำลังพัฒนาพลังงานชีวภาพ ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ บราซิล อินโดนีเซีย และแคนาดา เป็นต้น โดยนักวิเคราะห์ระบุว่าภายใต้ภูมิหลังของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การขุดน้ำมันและถ่านหินซึ่งเป็นทรัพยากรที่ไม่สามารถทดแทนกำลังเผชิญกับความยากลำบากยิ่งขึ้น และมีความเป็นไปได้ว่าในอนาคตธัญญาหารจะถูกนำไปผลิตพลังงานชีวภาพมากยิ่งขึ้น