บทวิเคราะห์: นักการเมืองญี่ปุ่นบางคนที่เรียกคืนลัทธิทหารนิยมต้องได้รับการระแวดระวังจากโลก
ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 75 ปี การปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญสันติภาพของญี่ปุ่น แต่การกระทำของนักการเมืองญี่ปุ่นบางคนแสดงให้เห็นว่า พวกเขากำลังเบี่ยงเบนไปจากเส้นทางแห่งสันติภาพด้วยการเผยแพร่ภัยคุกคามจากภายนอกที่เกินความจริง เพื่อฝ่าฟันข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญสันติภาพ หมายจะให้ญี่ปุ่นก่อตั้งกองทัพป้องกันประเทศ และมีสิทธิในการทำสงครามทางการทูต ประชาคมโลกจะต้องตื่นตัวต่อสัญญาณอันตรายที่นักการเมืองญี่ปุ่นบางคนเรียกคืนลัทธิทหารนิยมกลับมา
เมื่อ 75 ปีก่อนหลังญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างสิ้นเชิงแล้วจึงประกาศรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หลังสงคราม โดยมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า ญี่ปุ่นจะละทิ้งการก่อสงคราม การคุกคามด้วยกำลังอาวุธ หรือ ใช้กำลังอาวุธในการแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศตลอดไป เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวญี่ปุ่นจะไม่รักษาไว้ซึ่งสามเหล่าทัพและกำลังรบอื่น ๆ และไม่ยอมรับสิทธิการรบระดับชาติ ดังนั้นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของญี่ปุ่นจึงถูกเรียกว่ารัฐธรรมนูญสันติภาพ
อย่างไรก็ตามในช่วงทศวรรษ 1990 การเมืองญี่ปุ่นมีแนวโน้มไปในแนวทางอนุรักษ์นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่การพัฒนาทางเศรษฐกิจเข้าสู่ช่วงชะงักงันเป็นเวลา 30 ปี อย่างไรก็ตามรัฐบาลญี่ปุ่นไม่ได้เลือกปฏิรูปการเมืองและนวัตกรรมทางเทคโนโลยีทางเศรษฐกิจ แต่กลับใช้วิธีก่อความขัดแย้งกับต่างประเทศและเข้าร่วมสงครามระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขความไม่พอใจของประชาชนและความขัดแย้งภายในประเทศ เนื่องจากรัฐธรรมนูญสันติภาพจำกัดญี่ปุ่นใช้สงครามเพื่อแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศ ทั้งยังกำหนดไว้ว่างบประมาณทางทหารไม่ควรเกิน 1% ของ GDP รัฐบาลญี่ปุ่นจึงตั้งเป้าที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ พรรคเสรีประชาธิปไตยของญี่ปุ่นได้ยื่นข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ฟุมิโอะ คิชิดะ เกี่ยวกับการแก้ไขนโยบายต่างประเทศและการป้องกันประเทศ โดยเสนอว่าญี่ปุ่นจะต้องรักษาความสามารถในการต่อสู้กับศัตรู ขณะที่งบประมาณด้านการป้องกันประเทศจะต้องปรับเพิ่มเป็น 2% ขึ้นไปของ GDP
ด้านหนึ่ง คือ GDP ยังคงลดลง ส่วนอีกด้านหนึ่ง คือ การปรับเพิ่มงบประมาณทางทหารเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าร่วมสงครามกับต่างประเทศ การที่รัฐบาลญี่ปุ่นบังคับให้แก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นหมายความว่าจะทำให้ประชาชนญี่ปุ่นมากขึ้นต้องอดอาหารแต่จะไม่สามารถนำมาซึ่งความปลอดภัยแก่พวกเขา
Tim/LR/Cui