สื่อมวลชนและนักวิชาการไทยแสดงความชื่นชมสุนทรพจน์ปธน.สี จิ้นผิงในพิธีเปิดงาน CIIE ครั้งที่ 3

แน่นอนว่าด้วยทิศทางดังกล่าว หากทุกประเทศสามารถพัฒนาความร่วมมือทางการค้า ก็จะเติบโตได้รับประโยชน์ร่วมกันได้ เพราะไม่ว่าอย่างไรจะต้องไม่ลืมว่า จีนมีประชากร 1,400 ล้านคน กลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางมีกว่า 400 ล้านคน เป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพมากที่สุดในโลก ที่สำคัญคาดว่าอีก 10 ปีข้างหน้า ยอดการนำเข้าสินค้าจะมีมูลค่ากว่า 22 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับประเทศไทยและทุกๆประเทศทั่วโลก ที่จะพัฒนาทิศทางการค้าโลกไปด้วยกัน

อาจารย์กอบกิจ ประดิษฐผลพานิช คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และ ผู้บริหารเว็บข่าวจีนไทยนิวส์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน(CMG)ว่า คำปราศรัยของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ในงานแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีน หรือ CIIE ครั้งที่ 3 นี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางความร่วมมือและทิศทางการเปิดประตูของประเทศให้กว้างขวาง ที่ทำให้นานาประเทศต่างได้รับประโยชน์ร่วมไปกับประเทศจีน ซึ่งจากช่วงโรคโควิด-19 ระบาดขึ้นมา เราทุกคนย่อมทราบกันดีว่า ไม่มีใครสามารถแยกตนเองออกจากผู้อื่นหรือไม่คิดจะเกี่ยวข้องกับผู้อื่นได้ ไม่ว่าระดับบุคคลหรือระดับตัวประเทศเอง

ในยามที่เศรษฐกิจของโลกกำลังถดถอย ประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรกว่า 1,400 ล้านคน และ กว่า 400 ล้านคนเป็นคนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อ สามารถช่วยหมุนให้วงจรการค้าขายเคลื่อนได้อีกครั้ง ซึ่งจุดนี้คือสิ่งที่เป็นแก่นของการจัดงานแสดงสินค้านำเข้าระดับประเทศ ตั้งแต่ครั้งแรก มาจนถึงตอนนี้ซึ่งเป็นครั้งที่สามแล้ว อย่างไรก็ตามการจะทำให้ความร่วมมือกันจากทั้งระดับธุรกิจและระดับประเทศเกิดขึ้นอย่างยั่งยืนนั้น ก็จำเป็นต้องอาศัยหลักคิดแบบที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน มีความเห็นอกเห็นใจต่อกัน และ ทุกฝ่ายต้องลดกำแพงระหว่างกัน ทั้งในเรื่องกฎระเบียบที่ไม่จำเป็น สร้างสรรค์สภาพแวดล้อมการทำธุรกิจใหม่ๆ เปิดเขตการค้าการลงทุนพิเศษ ซึ่งจีนก็ได้ทำทุกอย่างที่กล่าวมานี้ เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้ “ผู้กล้า” ทุกราย สามารถมาลองเยือนกำแพงเมืองจีนดูสักครา

YIM/LU