ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น : พลิกโฉมพรรคคอมมิวนิสต์จีนมุ่งมั่นแก้ปัญหาให้ประชาชนส่วนใหญ่
พรรคคอมมิวนิสต์จีนเน้นการทดลองแบบค่อยเป็นค่อยไป เน้นการดำเนินยุทธศาสตร์แบบไม่ผลีผลาม เน้นทดลองทำเป็นขั้นเป็นตอน หากทำแล้วได้ผล ก็ค่อยขยายผล ถ้าไม่สำเร็จก็จะหยุดทบทวนถอดบทเรียน ก่อนจะปรับแก้ไขเพื่อเดินหน้าต่อ เช่น ในยุคเติ้งเสี่ยวผิงมีการทดลองเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ 4 แห่งแรกเพื่อทดลองนำกลไกตลาดมาใช้ เมื่อได้ผลแล้วจึงค่อยขยายผลออกไปในพื้นที่อื่น ๆ จนครอบคลุมทั่วประเทศจีน
พรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่ทำตัวเป็นนกกระจอกเทศที่เอาหัวมุดดินหนีปัญหา แต่จะยอมรับว่า ยังคงมีปัญหาและเน้นการวางแผนล่วงหน้าในการเตรียมรับมือกับปัญหา เช่น ยอมรับว่า ยังคงมีปัญหาความยากจนในจีน และประกาศทำสงครามกับความยากจนให้หมดสิ้นไปภายในปี 2020
พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ คิดใหญ่มองไกลและมีความแน่วแน่และต่อเนื่อง จีนจึงมียุทธศาสตร์ระยะยาวที่ชัดเจน เช่น ยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางที่ผลักดันมาตั้งแต่ปี 2013 จนถึงวันนี้มีประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเข้าร่วมแล้วมากกว่า 70 ประเทศ
พรรคคอมมิวนิสต์จีนตระหนักดีว่า การดำรงอยู่ของพรรคคอมมิวนิสต์ต้องมาจากการสร้างความชอบธรรมจากผลงานที่จับต้องได้ จึงเน้นรับฟังเสียงและข้อกังวลของประชาชนส่วนใหญ่และแก้ไขปัญหาตามความต้องการของประชาชน เช่น ตระหนักดีว่า ปัญหาคอรัปชั่นจะทำให้ประชาชนไม่พอใจและอาจจะเป็นปมเงื่อนไขนำไปสู่ความปั่นป่วนทางสังคมได้ นายสี จิ้นผิง ผู้นำจีนยุคปัจจุบันจึงเน้นปราบคอรัปชั่นอย่างจริงจัง และเน้นรับใช้ประชาชน ประชาชนต้องมาก่อน
พรรคคอมมิวนิสต์จีนเน้นการแข่งขันภาคเอกชนและเปิดรับแรงกดดันจากภายนอกให้เอกชนจีนต้องตื่นตัวและปรับตัวเพื่อความอยู่รอดและเพื่อเอาชนะ เช่น การเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกและเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อให้บริษัทจีนต้องปรับตัวสู้กับต่างชาติ หรือการเปิดให้บริษัท Tesla เข้ามาลงทุนในจีนเพื่อให้บริษัทรถยนต์ EV ในจีนต้องตื่นตัว พัฒนาตัวเองปรับตัวให้รอดจากการแข่งขันกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งและมีเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Tesla รวมทั้งการปล่อยให้เอกชนจีนแข่งขันกันเองอย่างเข้มข้น เช่น การแข่งขันระหว่างเครือ Alibaba กับเครือ Tencent