กรุงปักกิ่งในสายตาอดีตผอ.วังต้องห้ามกู้กงปักกิ่ง
“พวกเราไม่ได้คิดว่า ชาวเมืองปักกิ่งจะร่วมกิจกรรมนี้อย่างคึกคัก ชาวบ้านหลายคนบริจาคอิฐในห้องครัว บางคนถีบจักรยานขนอิฐที่มีน้ำหนักเกือบ 25 กิโลกรัม มาให้จากชานเมืองปักกิ่งที่ไกลมาก บางคนมาทั้งครอบครัวทั้งผู้สูงวัยและหลาน ตลอดทั้งฤดูหนาวนั้น สถานที่ก่อสร้างมีบรรยากาศอบอุ่นเป็นพิเศษ ชาวปักกิ่งได้บริจาคอิฐหลายแสนชิ้น แสดงให้เห็นว่า ชาวปักกิ่งรักกรุงปักกิ่งมาก”
“ภายหลัง ผมทำงานที่คณะกรรมการวางแผนกรุงปักกิ่ง ตอนนั้น พวกเรากังวลว่า จะมีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ใหม่ๆ เข้ามาบดบังทิวทัศน์พระราชวังต้องห้าม ซึ่งรู้สึกไม่ค่อยเหมาะสม ในที่สุดจึงตกลงที่จะให้ย้ายไปนอกวงแหวนที่ 4”
นายซั่น จี้เสียง กล่าวว่า “ขณะเดียวกัน ยังได้ตั้งเขตห้ามก่อสร้างอาคารสูงในแนวเส้นแกนกลางปักกิ่ง พระราชวังต้องห้าม และหอฟ้าเทียนถัน ด้วยเหตุนี้ จึงสามารถยื่นขอเป็นมรดกโลกได้ในวันนี้”
“ผมเริ่มทำงานที่พระราชวังต้องห้ามตั้งแต่ปี 2012 นานต่อเนื่องเป็นเวลา 7 ปี 3 เดือน ตอนนั้นผมปรารถนาที่จะคืนชีพวังต้องห้ามให้สังคมและประชาชน”
“วันที่ 8 ธันวาคมปีที่แล้ว เป็นวันเกิด 600 ปีของพระราชวังต้องห้าม วันนั้นพวกเราภูมิใจมาก ต่างรู้สึกว่า รุ่นของพวกเราได้บรรลุเป้าหมาย ‘มอบวังต้องห้ามที่งดงามยิ่งใหญ่ให้กับ 600 ปีถัดไป’ ”
ขณะเดียวกัน นายซั่น จี้เสียง เน้นว่า นอกจากอนุรักษ์ประวัติเก่าแก่แล้ว พวกเรายังต้องให้ความสำคัญกับความทรงจำสมัยใหม่และร่วมสมัยของตัวเมืองด้วย
Yim/Ldan