บทวิเคราะห์ : พรรคคอมมิวนิสต์จีนนำการพัฒนาก้าวหน้าสู่ทิเบตอย่างไม่เคยมีมาก่อน
หลังก่อตั้งประเทศจีนใหม่ใน ค.ศ. 1949 พรรคคอมมิวนิสต์จีนมุ่งมั่นปลดปล่อยและพัฒนาทิเบตอย่างสันติ วันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 1951 ทิเบตได้รับการปลดปล่อยอย่างสันติ ถือเป็นสัญลักษณ์แสดงว่านับแต่นั้นมาทิเบตได้หลุดพ้นจากโซ่ตรวนของอิทธิพลจักรวรรดินิยมที่รุกรานทิเบตและกลับคืนสู่อ้อมกอดของมาตุภูมิ การปฏิรูปประชาธิปไตยที่ดำเนินการใน ค.ศ. 1959 ได้ยกเลิกระบบทาสกสิกรรมที่รวมการเมืองและศาสนาเข้าเป็นหนึ่งเดียว ทั้งยังทำให้ระบบสังคมทิเบต "ก้าวข้ามสหัสวรรษ" ต่อมาใน ค.ศ. 1965 ทิเบตได้ใช้ระบบการปกครองตนเองทางชาติพันธุ์อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งทำให้ประชาชนมีสิทธิในการเป็นเจ้าของประเทศมากขึ้นอีกระดับ
ประการที่สอง พรรคคอมมิวนิสต์จีนนำชาวทิเบตเดินบนหนทางแห่งการพัฒนาที่มีลักษณะเฉพาะของจีนและทิเบต ช่วยให้เศรษฐกิจทิเบตฟื้นตัวและพัฒนา พื้นที่เมืองและชนบทมีโฉมหน้าใหม่ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมีระดับสูงขึ้นอย่างมาก GDP ของทิเบตใน ค.ศ. 1951 มีเพียง 129 ล้านหยวน ตัวเลขนี้ทะลุ 190,000 ล้านหยวนใน ค.ศ. 2020 ขณะที่อายุขัยเฉลี่ยของชาวทิเบตเพิ่มขึ้นจาก 35.5 ปี ใน ค.ศ. 1951 เป็น 71.1 ปี ใน ค.ศ. 2019 ก่อนการปลดปล่อยผู้คนในทิเบตกว่า 90% ไม่มีบ้านพักอาศัยเป็นของตัวเอง จนกระทั่ง ค.ศ. 2020 พื้นที่อยู่อาศัยเฉลี่ยต่อหัวของเกษตรกรและชาวปศุสัตว์ในทิเบตมีขนาดถึง 41.46 ตารางเมตร และพื้นที่อยู่อาศัยเฉลี่ยต่อหัวของชาวเมืองมีขนาดถึง 33.4 ตารางเมตร นับจนถึงปลาย ค.ศ. 2019 ทิเบตประสบความสำเร็จเชิงประวัติศาสตร์ในการขจัดความยากจนสุดขีด ปัจจุบันรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปีของประชากรที่หลุดพ้นความยากจนมีมากกว่า 10,000 หยวน
สิ่งที่น่ากล่าวถึงเป็นพิเศษ คือ ตลอดช่วง 70 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนมอบนโยบายพิเศษมากมายแก่ทิเบต เมื่อเร็ว ๆ นี้ นางเปียนปาลาหมู่ ผู้อำนวยการสถาบันเอเชียใต้ศึกษา สภาวิทยาศาสตร์สังคมเขตปกครองตนเองทิเบต กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทิเบตส่วนใหญ่อาศัยการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลกลางซึ่งคิดเป็นเกือบ 97% นอกจากนี้ เวลากำหนดนโยบายบางประการก็ได้ให้สิทธิพิเศษแก่ทิเบตอย่างมาก ด้วยหลักประกันเหล่านี้ เศรษฐกิจและสังคมของทิเบตจึงสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพสูง”