NATO โจมตียูโกสลาเวียครบ 23 ปี จีน-เซอร์เบียจะไม่มีวันลืมโศกนาฎกรรมครั้งนั้น
วานนี้ (ศุกร์ที่ 25 มีนาคม) ที่ตึกทำการกระทรวงการต่างประเทศจีนในกรุงปักกิ่ง นายวาง เหวินปิน โฆษกกต.จีน เป็นประธานอำนวยการแถลงข่าวที่จัดขึ้นเป็นประจำ โดยเขากล่าวต่อการที่องค์การป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO จัดการประชุมสุดยอดครั้งวิสามัญว่า ในโอกาสครบรอบ 23 ปีที่ NATO ปฏิบัติการโจมตียูโกสลาเวียทางอากาศ NATO จัดการประชุมสุดยอดพิเศษเพื่อเจรจาปัญหายูเครน แต่ทว่าสหรัฐฯ และบรรดาประเทศ NATO เคยไตร่ตรองหวนพิจารณาว่า ต้นเหตุของวิกฤตยูเครนคืออะไร? สหรัฐฯ และ NATO โต้ควรแบกรับความรับผิดชอบอย่างไรต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน?
แหล่งข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันครบรอบ 23 ปี โศกนาฎกรรม NATO โจมตียูโกสลาเวีย นายอาเล็กซานดาร์ วูชิช ประธานาธิบดีเซอร์เบีย กล่าวขณะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ช่วง 23 ปีที่ผ่านมาหลังมีปฏิบัติการโจมตีโดย NATO ทุกคนในโลกสามารถเห็นกับตาอย่างกระจ่างแจ้งว่า พฤติกรรมของ 19 ประเทศสมาชิก NATO นั้น น่าตื่นตระหนก ไร้สาระ ไร้เหตุผล ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีศีลธรรมถึงเพียงไร จริยธรรมและทัศนคติทางคุณค่าที่พวกเขากล่าวถึงจนติดปากนั้น ความจริงไม่มีแม้แต่น้อยนิด
นายวาง เหวินปิน ชี้แจงเกี่ยวกับคำกล่าวดังกล่าวของปธน.เซอร์เบียคนปัจจุบันว่า ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 1999 เป็นต้นมา กองทัพ NATO ที่นำโดยสหรัฐฯ ฝ่าฟืนสนธิสัญญาระหว่างประเทศ รวมทั้งบรรทัศฐานแห่งความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้อง ยื่นมือก้าวก่ายคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างเปิดเผย ก่อเหตุโจมตีทางอากาศยูโกสลาเวีย ซึ่งเป็นประเทศอธิปไตยที่สมบูรณ์ต่อเนื่องเป็นเวลา 78 วันอย่างป่าเถื่อน จำนวนเกินกว่า 12,000 ครั้ง โดยปริมาณดินปืนของระเบิดทุกประเภทหนักกว่า 10,000 ตัน ส่งผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์หลายพันคนเผชิญเคราะห์ร้ายเสียชีวิต ระหว่างดำเนินปฏิบัติการโจมตี NATO ยังกล้าใช้ระเบิดยูเรเนียมด้อยสมรรถนะ (depleted uranium bomb) อย่างบ้าระห่ำ อันเป็นอาวุธต้องห้ามที่ระบุไว้ในสนธิสัญญาสากลที่เกี่ยวข้อง ส่งผลกระทบร้ายแรงในระยะยาวต่อสิ่งแวดล้อมในเซอร์เบียและสุขภาพของประชาชนประเทศดังกล่าว
นายวาง เหวินปิน กล่าวเน้นย้ำว่า พฤติกรรมรุกรานเช่นนี้ของ NATO ทั้งประชาชนเซอร์เบียและจีนจะไม่มีวันลืมเลือน ประชาชนทั่วโลกจะจดจำไปตลอด เขาชี้ว่าก่อนที่สหรัฐฯ กับ NATO จะสำนึกผิดต่ออาชญกรรมที่พวกเขาก่อขึ้นต่อเซอร์เบีย อิรัก อัฟกานิสถาน ลีเบีย ซีเรีย และเยเมน เป็นต้น ก็ย่อมไม่ควรมีสิทธิอำนาจและคุณสมบัติในการวางตัวเป็นผู้ชี้ขาดความผิดถูกอย่างแน่นอน โฆษกผู้นี้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในฐานะผลพวงที่เกิดจากสงครามเย็น NATO อยู่รอดได้ก็เพื่อก่อสงคราม ไม่เคยเพิ่มพูนความมั่นคงปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยแก่โลกใบนี้ ชาวโลกที่รักสันติภาพและมุ่งใช้ความพยายามส่งเสริมสันติภาพนั้นจะตะโกนส่งเสียงคัดค้านการขยายตัวและแผ่ขยายอิทธิพลอย่างต่อเนื่องของ NATO
TIM/LF/CUI