บทวิเคราะห์: การสร้างนวัตกรรมด้วยตนเองของจีนเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาร่วมกันของโลก
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สื่อสหรัฐฯ บางสำนักอ้างคำพูดของนักธุรกิจและนักการเมืองบางคนมารายงานว่า การที่จีนเพิ่มขีดความสามารถด้านการสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วยตนเองนั้น จะทำให้การสร้างนวัตกรรมในขอบเขตทั่วโลกชะลอตัวลงและเป็นอุปสรรคต่อการค้าโลก อีกทั้งยังจะทำให้ทั่วโลกยากจนลงด้วย
ตรรกะการรายงานข่าวของสื่อสหรัฐฯ ดังกล่าวเหลวไหลไร้สาระจริง ๆ แม้สื่อสหรัฐฯ ยอมรับว่า โลกกำลังประสบกับปัญหาการขาดแคลนชิป อย่างรุนแรงจากการระบาดของโควิด-19 แต่ก็ยังคงประโคมข่าวสนับสนุนแผนชั่วร้ายของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการขัดขวางจีนและประเทศอื่นผลิตชิปและสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยีอย่างเป็นอิสระ การกระทำของสหรัฐฯ ดังกล่าวได้สร้างความวุ่นวายมากขึ้นแก่ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกที่มีความสลับซับซ้อนมากอยู่แล้ว
รายงานข่าวของสื่อสหรัฐฯ ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงแรงจูงใจที่ซ่อนเร้นของบรรดาผู้ที่ยึดติดกับปทัฏฐานที่ต้องให้ตะวันตกเป็นศูนย์กลางโลก ซึ่งเป็นความคิดที่ล้าสมัยไปแล้ว และยังสะท้อนให้เห็นถึงความคิดเย่อหยิ่งของสื่อสหรัฐฯ บางสำนักที่ต้องให้อเมริกามาก่อน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องช่วยคนเหล่านี้จัดระเบียบความสับสนในใจ
แม้สหรัฐฯ คุยโวโอ้อวดมาตลอดว่า เป็นผู้รักษากฎเกณฑ์เศรษฐกิจตลาดเสรีและบรรทัดฐานการค้าระหว่างประเทศ แต่ช่วงหลายปีมานี้สหรัฐฯ พยายามหาทางกดดันบริษัทต่างชาติที่มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีระดับสูง เพื่อรักษาอำนาจทางเทคโนโลยีของตน สหรัฐฯ ได้ใช้อำนาจรัฐโดยมิชอบภายใต้ข้ออ้างเรื่องความมั่นคงของชาติ ควบคุมการส่งออกไปยังองค์กรและบริษัทจีนหลายร้อยแห่ง ทั้ง ๆ ที่องค์กรและบริษัทจีนเหล่านี้จะมีส่วนสนับสนุนต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ