ทูตปากีสถานประจำจีนชี้ความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”เติมพลังขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ
เมื่อเร็วๆ นี้ นาย Moin ul Haque เอกอัครราชทูตปากีสถานประจำประเทศจีนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนจีนว่า ความร่วมมือภายใต้กรอบแนวคิดริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เติมพลังขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของปากีสถาน การก่อสร้างระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน (CPEC) ซึ่งเป็นโครงการหลักภายใต้กรอบความร่วมมือนี้ทำให้เศรษฐกิจปากีสถานได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน
ทูตปากีสถานประจำจีนกล่าวว่า การมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ทำให้ปากีสถานเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางบวกอย่างมาก ปีหลังๆ มานี้ โครงสร้างพื้นฐานในปากีสถานได้รับการปรับปรุงดีขึ้น อุปกรณ์ด้านพลังงานได้รับการยกระดับให้สูงขึ้น ท่าเรือกวาดาร์ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่มีคุณค่าสำหรับระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน
ที่เมืองลาฮอร์ เมืองใหญ่อันดับสองในปากีสถาน รถไฟใต้ดินสายสีส้ม ซึ่งเป็นรถไฟใต้ดินสายแรกในปากีสถานได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2020 รถไฟสายดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการความร่วมมือในระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน โดยวิสาหกิจจีนมีส่วนร่วมในการก่อสร้างและบริหารการเดินรถของรถไฟใต้ดินสายนี้
ทูตปากีสถานประจำจีนยังกล่าวด้วยว่า ประโยชน์จากความร่วมมือ“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ทำให้ประชาชนเมืองลาฮอร์มีโอกาสใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ทันสมัย และราคาถูก เขายังเน้นว่าความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้สร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนปากีสถาน การดำเนินความร่วมมือในโครงการนี้ทำให้เกิดการสร้างงาน ปรับปรุงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน การขจัดความยากจน และการปรับปรุงสภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ห่างไกล อีกทั้งยังช่วยปรับเปลี่ยนสภาพเศรษฐกิจ สังคม และอุตสาหกรรมของปากีสถานให้ดีขึ้นด้วย