บริษัทจีนตั้ง “คลังสินค้าในต่างประเทศ” เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งข้ามพรมแดน
จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ผู้บริโภคบางส่วนต้องการซื้อของออนไลน์มากขึ้น แต่เนื่องจากความไม่แน่นอนของระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการด้านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนได้เริ่มสร้าง “คลังสินค้าในต่างประเทศ” ขึ้นมา เพื่อคงประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้า
ในเขตสินค้าทัณฑ์บนที่เมืองเจียงยิน มณฑลเจียงซู
บริษัทรายหนึ่งกำลังเร่งส่งสินค้าที่เป็นเครื่องแต่งกายปริมาณกว่า 700 ตัน โดยเมื่อครึ่งปีก่อนบริษัทรายนี้กำลังหาวิธีการขนส่งข้ามพรมแดนและการจัดส่งสินค้าให้สะดวกรวดเร็ว และดำเนินการจดทะเบียนคลังสินค้าในต่างประเทศซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 10,000 ตารางเมตร ในลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา และได้เปิดใช้งานคลังสินค้าดังกล่าว ทำให้สามารถหยิบสินค้า แจ้งศุลกากรและจัดส่งสินค้าได้ในคราวเดียว เมื่อลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ได้สั่งซื้อสินค้าแล้ว ก็จะได้รับสินค้าภายในเวลา 2 วัน
ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศรายหนึ่งในกว่างซี ได้เริ่มเปิดใช้งานคลังสินค้าในประเทศเวียดนาม โดยสามารถจัดการกับคำสั่งซื้อได้วันละ 3,000 รายการ ขณะเดียวกันก็ยังเร่งก่อสร้างคลังสินค้าในไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียอีกด้วย
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ด้วยวิธีการเช่นนี้ เมื่อลูกค้าได้ตกลงซื้อสินค้าผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ในต่างประเทศแล้ว สินค้าก็จะถูกส่งออกจากคลังสินค้าในต่างประเทศโดยตรง ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้ารวมถึงความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อการบริการ อีกด้วย