บทวิเคราะห์ : โลกต้องการยุโรปที่มีความเป็นตัวของตัวเองทางยุทธศาสตร์
เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา นายเอ็มมานูเอล มาครง ชนะการเลือกตั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อ ในฐานะประเทศแกนนำของสหภาพยุโรป ฝรั่งเศสเป็นกำลังสำคัญด้านการส่งเสริมการรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวของยุโรป และยืนหยัดการเป็นตัวของตัวเองด้านยุทธศาสตร์ ภายใต้สภาพการณ์ที่เกิดการปะทะกันในยุโรป การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อของนายเอ็มมานูเอล มาครง ถูกเฝ้าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ นายเอ็มมานูเอล มาครงกล่าวในการหาเสียงเลือกตั้งว่า จะดำเนินนโยบายต่อจากปัจจุบันสร้างฝรั่งเศสที่ “เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น” เรียกเสียงสนับสนุนมากมายให้กับเขา แต่ก็ถือเป็นความท้าทายยิ่งในอนาคตด้วย โดยเฉพาะในระหว่างการจัดการข้อขัดแย้งด้านผลประโยชน์กับสหรัฐฯในปัญหายูเครน
การปะทะระหว่างรัสเซียกับยูเครนเป็นวิกฤติร้ายแรงที่สุดในยุโรปหลังสงครามครั้งที่ 2 ภายใต้การจี้บังคับของสหรัฐฯ ยุโรปกลายเป็นผู้เสียหายรายใหญ่ที่สุดจากการปะทะระหว่างรัสเซียกับยูเครน
เมื่อเดือนที่แล้ว สหภาพยุโรปได้ประกาศ “แผนชี้นำเชิงยุทธศาสตร์” เพื่อสร้างกองกำลังปฏิบัติการทางทหารของยุโรปที่ไม่เป็นของนาโต สร้างกรอบการรักษาความปลอดภัยของตัวเอง
ชะตากรรมของยุโรปควรอยู่ในมือของชาวยุโรปเอง คำประกาศของนายเอ็มมานูเอล มาครง ที่ว่า “ยุโรปควรเป็นตัวของตัวเองเชิงยุทธศาสตร์” นั้น ควรบรรลุโดยเร็วและควรหยั่งรากลึกให้เร็วที่สุด โลกต้องการยุโรปที่มีความเป็นตัวของตัวเองทางยุทธศาสตร์ และยุโรปก็ควรแสดงบทบาทด้านความมั่นคงและความมั่นใจกับโลกที่เกิดความวุ่นวายนี้มากขึ้นด้วย
Yim/Ldan/Zhou