"ในใจเขามีพนักงานที่เข้ามาทำงานในเมือง" - เรื่องราวของ 'สี จิ้นผิง' กับผู้แทนประชาชนแห่งชาติ
วันเดียวกันนั้นหมี เสวี่ยเหมยกล่าวถึงข้อเสนอจากประสบการณ์ชีวิตและการวิจัยของเธอเอง เธอหวังว่า รัฐบาลทุกระดับจะเพิ่มการลงทุนด้านการศึกษาต่อไป เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับลูกของแรงงานที่มาทำงานในเมือง เด็กเหล่านี้สามารถไปโรงเรียนข้างพ่อแม่เพื่อให้พวกเขาอยู่กับพ่อแม่ได้อย่างมีความสุข
หลังจากฟังคำพูดของหมี เสวี่ยเหมยแล้ว นายสี จิ้นผิงก็พูดกับเธอว่า "คุณพูดได้ดีมากครับ ประสบการณ์ของเธอเหมือนกับชื่อของเธอ 'หมี เสวี่ยเหมย' กลิ่นหอมของดอกเหมย มาจากความหนาวเย็นและความยากลำบาก"
คำพูดของสี จิ้นผิงทำให้หมี เสวี่ยเหมยรู้สึกอบอุ่นมาก เธอรู้สึกว่า นี่เป็นความเอาใจใส่และการยกย่องจากเลขาธิการใหญ่ฯ ที่มีต่อแรงงานชนบทที่เข้ามาทำงานในเมืองหลาย ๆ คนเช่นเธอ
ระหว่างการประชุมครั้งนั้นสี จิ้นผิงชี้ให้เห็นว่า "พรรคคอมมิวนิสต์แสวงหาความสุขเพื่อประชาชน เมื่อใดก็ตามที่ประชาชนรู้สึกไม่มีความสุข ไม่ดีใจ หรือ ไม่พอใจ พวกเราควรทำงานหนักในด้านนั้น ใช้ความพยายามทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหาของพวกเขา"
สี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า "ขณะนี้เราส่งเสริมการกลายเป็นเมืองและต้องให้แรงงานชนบทที่เข้ามาทำงานในเมืองนับพันนับล้านคนสามารถทำงานและใช้ชีวิตในเมืองได้อย่างมั่นคง ให้ลูกของพวกเขามาพร้อมพ่อแม่ด้วยอย่าตกเป็นเด็กที่ต้องอยู่บ้านเกิดคนเดียว"
หมี เสวี่ยเหมย กล่าวว่า คำสั่งของเลขาธิการใหญ่ฯ ได้กลายเป็นปฏิบัติการที่แท้จริงในพื้นที่ต่าง ๆ ในปี 2021 เมืองจงซานที่เธอทำงานนั้นมีลูกของแรงงานต่างถิ่นเข้าในโรงเรียนของรัฐแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปยังจุดรับพัสดุส่งด่วน เพื่อเยี่ยมพนักงานส่งด่วน ถามถึงสภาพการทำงานและความเป็นอยู่ของพวกเขา หรือไปอวยพรปีใหม่แก่พนักงานทำความสะอาดเมือง หรือจะในพื้นที่ก่อสร้าง นายสี จิ้นผิงต่างได้พูดคุยกับพนักงานต่างถิ่นอย่างใกล้ชิด