‘สี จิ้นผิง’ในสายตาของปชช.จีน (7) - เมื่อนโยบายของพรรคฯดีก็ต้องพยายามวิ่งไปข้างหน้า

เมื่อวันที่ 15 เมษายน ปี 2019 ขณะนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีและเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนลงพื้นที่ตรวจงานในอำเภอปกครองตนเองชนชาติถู่เจียสือจู้ในนครฉงชิ่ง เขาได้ไปเยี่ยมเยียนนางหม่า เผยชิง สมาชิกอาวุโสของพรรคฯ ซึ่งมีอายุ 86 ในปีนั้น รวมทั้งครอบครัวของเธอ ซึ่งได้หลุดพ้นความยากจนแล้วที่หมู่บ้านหวาซี เมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสัมภาษณ์หม่า เผยชิงอีกครั้ง

ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ หมู่บ้านหวาซีซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในภูเขา สรรพสิ่งกำลังฟื้นฟูชีวิตชีวา สายลมพัดป่าไม้ส่งเสียงดัง วันนั้น ปธน.สี จิ้นผิงออกเดินทางจากกรุงปักกิ่งตั้งแต่เช้าตรู่ หลังจากโดยสารเครื่องบินถึงนครฉงชิ่ง ได้เดินทางต่อทางรถไฟและรถยนต์ตามลำดับ ได้ปีนข้ามภูเขาหลายลูก เดินทางอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้หยุดพักเลยจนถึงเป้าหมายปลายทาง ซึ่งก็คือหมู่บ้านหวาซี ตำบลจงอี้ อำเภอปกครองตนเองชนชาติถู่เจียสือจู้ กว่าสี จิ้นผิงเดินเข้าไปในบ้านของหม่า เผยชิงนั้นเป็นเวลาเกือบ 6 โมงเย็นแล้ว

สี จิ้นผิงจับมือหม่า เผยชิงและทักทายเธอและสมาชิกครอบครัวอย่างเป็นกันเอง เมื่อเห็นภายในยุ้งฉางเต็มไปด้วยธัญญาหาร ภายในห้องครัวแขวนไว้ซึ่งเนื้อสัตว์รมควันไม่น้อย และได้รับรู้ว่าครอบครัวนี้ได้บรรลุการหลุดพ้นความยากจนอย่างมั่นคงแล้วผ่านการมีส่วนร่วมในการพัฒนาธุรกิจ“หวงจิง”ซึ่งเป็นยาสมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง การร่วมลงทุนถือหุ้นด้วยที่ดินและรับเงินปันผล และการดูแลฐานปลูกยาสมุนไพร เป็นต้น ปธน.สี จิ้นผิงมีรอยยิ้มบนใบหน้าอย่างมีความสุข

หันหน้าไปทางภูเขา หนึ่งโต๊ะสี่เหลี่ยมพร้อมเก้าอี้นั่งหลายตัว ในลานบ้านของหม่า เผยชิง ปธน.สี จิ้นผิงร่วมนั่งด้วยกันกับตัวแทนชาวหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ระดับรากหญ้า เจ้าหน้าที่บรรเทาความยากจน และแพทย์ประจำชนบท พวกเขาคุยกันถึงเรื่องนโยบาย ความเปลี่ยนแปลง และการพัฒนา สี จิ้นผิงพูดกับบรรดาชาวบ้านว่า “มีกินมีใช้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับชาวบ้านและความคืบหน้าของงานบรรเทาความยากจนเป็นสำคัญ บนหนทางสู่ความมีกินมีใช้รอบด้านนั้นจะทิ้งใครไว้ข้างหลังไม่ได้แม้แต่คนเดียว"