มองขีดความสามารถยอดเยี่ยมด้านความเป็นผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจากการเปรียบเทียบการต้านโควิด-19 ระหว่างจีน-สหรัฐฯ
หนึ่งในสาเหตุหลักที่สหรัฐฯ ไม่ประสบความสำเร็จในการป้องกันและควบคุมโควิด-19 คือ หน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ โยนความผิดพลาดแก่กัน จากการกำหนดนโยบายไปจนถึงการปฏิบัติตามนโยบาย ต่างตกอยู่ในความขัดแย้งที่ทำลายซึ่งกันและกันทางการเมืองอย่างไม่รู้จบ นำไปสู่การเกิดความขัดแย้งเชิงนโยบายและความล่าช้าในการดำเนินการคลี่คลายสถานการณ์
พื้นฐานความคิดที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแสดงถึงพลังการหลอมรวมทางวัฒนธรรม
ยามเผชิญบททดสอบของความเป็นความตายที่สืบเนื่องจากโรคระบาด พรรคคอมมิวนิสต์จีนนำพาประชาชนทั้งประเทศใช้ความคิดและพลังไปในทิศทางเดียวกัน เชื่อมโยงชะตากรรมทั้งส่วนตัวและประเทศชาติเข้าด้วยกันอย่างใกล้ชิด สะท้อนถึงพลังแห่งการหลอมรวมทางวัฒนธรรมที่ส่งเสริมให้ประชาชนทั่วประเทศสามัคคีกันอย่างใกล้ชิดทางด้านความคิดและจิตใจ ประชาชนไว้วางใจพรรคฯ และรัฐบาลในระดับสูง ตอบสนองข้อเรียกร้องและสนับสนุนการต่อสู้กับโรคระบาดด้วยปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์กว่า 40,000 คนทั่วประเทศพร้อมใจกันรีบรุดสู่ด่านหน้า เจ้าหน้าที่ชุมชนระดับพื้นฐานแบกรับภารกิจหนักอย่างกล้าหาญและอุทิศตนด้วยความเสียสละ ผู้ปฏิบัติงานทางสังคม อาสาสมัคร และพนักงานส่งพัสดุด่วนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ทำงานอยู่แนวหน้า พรรคคอมมิวนิสต์จีนพึ่งพาประชาชนอย่างใกล้ชิดและเอาชนะสงครามประชาชนในการป้องกันและควบคุมโรคระบาด แสดงให้เห็นถึง “จิตวิญญาณแห่งประเทศจีน” และ “พลังแห่งประเทศจีน” อย่างเต็มที่ สถานการณ์โดยรวมทางสังคมมีเสถียรภาพในระดับสูงและมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ในทางตรงกันข้ามช่วงเกิดโรคระบาดสังคมสหรัฐฯ แตกแยกรุนแรงยิ่งขึ้น ความขัดแย้งทางเชื้อชาติก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น ก่อให้เกิดปัญหาสังคมอย่างร้ายแรง เจ้าหน้าที่การแพทย์บางพื้นที่ในสหรัฐฯ พากันหยุดงานเนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนเพียงพอ ตำรวจในนิวยอร์กและที่อื่น ๆ ลาป่วยเป็นจำนวนมาก เกิดการเดินขบวนประท้วงเพื่อเรียกร้อง “ชีวิตคนผิวดำก็มีความหมาย” ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เหตุการณ์ทุบตี ปล้นสะดม และวางเพลิงเกิดขึ้นไม่จบสิ้น ผู้คนตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนก