‘หลิว กุ้ยจิน’ผู้ได้รับเหรียญเกียรติยศ 1 กรกฎา : เจ้าหน้าที่อาวุโสทางการทูตที่อุทิศตนเพื่อประเทศชาติ
ในช่วงเวลา 5 ปีที่ทำงานประจำในประเทศเคนยา หลิว กุ้ยจินเคยใช้สิทธิ์วันหยุดพักผ่อนและเดินทางกลับประเทศเพียงครั้งเดียว เวลาอำลากับภรรยาก่อนออกเดินทาง ลูกชายวัย 3 ขวบร้องไห้หาพ่อแม่ เมื่อเขากลับมาที่จีนหลังครบวาระการทำงานในเคนยา ลูกชายเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 แล้ว เนื่องจากถูกจำกัดด้วยเงื่อนไข ความรักและความทุกข์จากการจากลาแบบนี้เป็นความทรงจำร่วมกันของนักการทูตรุ่นก่อนๆจำนวนมาก “บางครั้งผู้คนทั้งหลายมองเห็นแต่ชุดสูท เนคไท ดอกไม้ และไวน์ชั้นเลิศ แต่สิ่งที่งานทางการฑูตต้องการมากกว่าคือความทุ่มเทและการอุทิศตน” หลิว กุ้ยจินกล่าวด้วยความรู้สึกที่เปี่ยมล้น
ค.ศ. 1991 หลิว กุ้ยจินซึ่งขณะนั้นเป็นที่ปรึกษาของสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำเอธิโอเปียประสบกับการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลครั้งดุเดือด ในเดือนพฤษภาคมของปีนั้น ระบอบการปกครองเมนกิสตูถูกโค่นล้ม ผู้สนับสนุนที่คลั่งไคล้ของเมนกิสตู ไฮเล มาเรียมได้จุดไฟคลังแสงด้วยความโกรธ ทันใดนั้นกระสุนปืน ลูกปืนใหญ่ และระเบิดมือจำนวนมาก “บินว่อนไปมา”ทั่วบริเวณ
เมื่อกล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นหลิว กุ้ยจินยังคงรู้สึกหวาดกลัวจนถึงทุกวันนี้ "ตอนนั้น จุดศูนย์กลางของการระเบิดดูเหมือนหลุมอุกกาบาต แรงระเบิดยังทำให้เกิดหลุมขนาดเล็กกว่าหลายแห่งในบริเวณรอบๆ ปลอกกระสุนทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กมีให้เห็นทั่วทุกหนแห่ง ยังมีกระสุนปืนใหญ่หลายลูกตกลงมาที่ลานภายในสถานทูต" กระจกหน้าต่างห้องนอนของหลิว กุ้ยจินถูกกระสุนลูกหลงทำลายแตกกระจาย และยิงมาลงที่ข้างๆหมอนของเขา หากเพี้ยนอีกนิดก็จะโดนศีรษะพอดี
ท่ามกลางความวุ่นวายจากภัยสงคราม ผู้เชี่ยวชาญชาวจีนที่ทำงานช่วยเหลือเอธิโอเปียและเจ้าหน้าที่สถานทูตจีนประจำเอธิโอเปียจำนวนมากได้ถอนตัวกลับประเทศ แต่หลิว กุ้ยจินในฐานะอุปทูตชั่วคราวกับเพื่อนร่วมงานอีก 6-7 คนยังคงประจำอยู่ในสถานทูตเพื่อทำงานต่อไป ยามประสบปัญหาขาดแคลนอาหารและไม่มีน้ำประปาและไฟฟ้าใช้ เขาและเพื่อนร่วมงานได้พยายามทุกวิถีทางจนคลี่คลาย