บทวิเคราะห์ : ทำไมฮ่องกงควรยืนหยัด“ขจัดการระบาดของโควิดลงเป็นศูนย์”
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สถานการณ์โควิด-19 ในฮ่องกงของจีนรุนแรงทุกที ตามทางการของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง วันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ฮ่องกงพบผู้ยืนยันติดเชื้อโควิด-19 4,285 ราย และวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ฮ่องกงพบผู้ยืนยันติดเชื้อโควิด-19 6,116 ราย สร้างสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ทราบกันว่า ฮ่องกงมีประชากรประมาณกว่า 7,000,000 คน อัตราการติดเชื้อในเวลานี้นับว่าสูงมาก การควบคุมสถานการณ์เป็นภารกิจเร่งด่วน ส่วนการยืนหยัดขจัดการระบาดของโควิดลงเป็นศูนย์เป็นทางเลือกดีที่สุดเหมาะกับฮ่องกง
เมื่อทบทวนหนทางการต่อสู้กับโควิด-19 ของฮ่องกงใน 2 ปีที่ผ่านมาจะดูออกได้ไม่ยากว่า ในช่วงแรก ๆ ของสถานการณ์โควิด-19 ฮ่องกงเคยเลียนแบบรูปแบบตะวันตก แต่ผลคือสถานการณ์โควิด-19 มารบกวนทีละระลอก ๆ เศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้รับการโจมตีจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างร้ายแรง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2020 ฮ่องกงอาศัยยุทธศาสตร์ที่ “ป้องกันการนำเข้าจากภายนอก ป้องกันภายในไม่ให้กลับมาอีก” ประสบผลที่ค่อนข้างดีในภาพรวม หลายเดือนในปีที่แล้วไม่มีผู้ป่วยโควิด-19 ในท้องถิ่น กิจกรรมเศรษฐกิจสังคมก็ได้รับการฟื้นฟูอยู่เรื่อย ๆ ตอนนี้ ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนมีแนวโน้มลุกลามอยู่ในฮ่องกง ฮ่องกงยิ่งไม่มีเหตุผลยกเลิกยุทธศาสตร์ “ขจัดการระบาดของโควิดลงเป็นศูนย์”
ต้องระบุว่า ระยะเวลามานี้ นักการเมืองและสื่อมวลชนตะวันตกบ้างบิดเบือนหรือเข้าใจผิด “ขจัดการระบาดของโควิดลงเป็นศูนย์” ของจีนมาโดยตลอด ความจริง “ขจัดการระบาดของโควิดลงเป็นศูนย์” ไม่เท่ากับไม่มีคนติดเชื้อ แต่ต้อง “พบเร็ว จัดการอย่างเร่งด่วน ควบคุมอย่างตรงจุด ให้การรักษาพยาบาลอย่างมีผล” ในขณะเดียวกัน “ขจัดการระบาดของโควิดลงเป็นศูนย์” เน้น “ลักษณะการเคลื่อนไหว” ก็เพื่อลดพื้นที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างสุดความสามารถและประกันการดำเนินงานของเศรษฐกิจสังคมและระเบียบชีวิตอย่างเป็นปกติ ทำให้สังคมมีการเคลื่อนไหวเท่าที่จะทำได้
สำหรับมีคำพูดเห็นว่า “ขจัดการระบาดของโควิดลงเป็นศูนย์” ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมหาศาล นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกงกล่าวอย่างชัดเจนว่า คุ้มครองชีวิต และสุขภาพของผู้คน ไม่ให้ระบบรักษาพยาบาลอัมพาต สอดคล้องกับผลประโยชน์สาธารณะมากกว่า เธอเน้นว่า ฮ่องกงควรยืนหยัดนโยบาย “ขจัดการระบาดของโควิดลงเป็นศูนย์” ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์จริงของฮ่องกงในเวลานี้ เธอเน้นว่า ยอมแพ้ต่อไวรัสไม่ใช่ทางเลือก โดยทางการเขตบริหารพิเศษฯ จะเพิ่มอุปกรณ์กักตัว คลี่คลายแรงกดดันของโรงพยาบาลฮ่องกง
สมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกงหลายคนก็เห็นว่า “ขจัดการระบาดของโควิดลงเป็นศูนย์” สอดคล้องกับผลประโยชน์ของฮ่องกง เวลานี้ ควรยึดการควบคุมโควิด-19 เป็นทางเลือกอันดับแรก ไม่ควรมีจิตใจยอมจำนนแบบไม่ทำอะไรตั้งแต่แรก ที่ว่า “อยู่ด้วยกับไวรัส” จะทำให้สังคมเลือนรางจุดโฟกัสการต่อสู้ของสังคม
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ฮ่องกงเผชิญกับแรงกดดันจากการต่อสู้โควิด-19 รัฐบาลกลางจีนสนับสนุนฮ่องกงต่อสู้กับโควิด-19 อย่างเต็มที่ ปัจจุบัน ฮ่องกงได้เปิด “ห้องแล็บดวงตาไฟ” ที่จีนแผ่นดินใหญ่ช่วยสร้างอีกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ จะเพิ่มจำนวนการตรวจโควิด-19 ของฮ่องกงเป็นอย่างมาก บ่ายวันที่ 17 กุมภาพันธ์ คณะผู้เชี่ยวชาญจากจีนแผ่นดินใหญ่ชุดแรกเดินทางถึงฮ่องกง ช่วยฮ่องกงทำงานด้านการตรวจและวิเคราะห์ทางพยาธิวิทยา โดยมาตรการดังกล่าวล้วนได้สนับสนุนนโยบาย “ขจัดการระบาดของโควิดลงเป็นศูนย์” ของทางการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
ในขณะเดียวกัน ภายใต้การประสานงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว รถบรรทุกผักหลาย ๆ คันได้ผ่านด่านกวนจิ่นตู้ของเมืองเซินเจิ้น ได้ขนส่งผักสด ๆ อาทิ ผักกาดหอม แตงกวา กะหล่ำปลี ผักกาดขาว มะเขือเทศ และบร็อคโคลีไปยังฮ่องกง เพื่อให้พลเมืองสามารถจัดซื้อในเช้าวันรุ่งขึ้น ประกันความต้องการผัดสดของชาวฮ่องกง
2 ปีที่ผ่านมา จีนแผ่นดินใหญ่กลายเป็นองค์เศรษฐกิจสำคัญที่ฟื้นฟูการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นอันดับแรกในโลก นี่แสดงว่า ยุทธศาสตร์ “ขจัดการระบาดของโควิดลงเป็นศูนย์” ได้แสดงบทบาทสำคัญในการให้ความสำคัญทั้งการควบคุมโควิด-19 พร้อมการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม กลายเป็นประสบการณ์แห่งความสำเร็จที่ปฏิบัติได้ ส่วน “เคล็ดลับ” ของจีนแผ่นดินใหญ่นี้ ก็จะกลายเป็นตัวขับเคลื่อนฮ่องกงในการต่อสู้กับโควิด-19 ระลอกนี้
เขียนโดย ชุย อี๋เหมิง ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน