ประสบการณ์เซินเจิ้น: รหัสการพัฒนาของจีน(2)
เวลานั้นเงินเดือนของเมืองเซินเจิ้นสูงกว่าเขตเมืองชั้นในอย่างมาก เป็นแรงดึงดูดบุคลากรสาขาต่างๆ มีครั้งหนึ่ง นายกู่ มู่ รองนายกรัฐมนตรีไปทานข้าวในร้านอาหารแห่งหนึ่งของเซินเจิ้น เขาถามบริกรคนหนึ่งว่า “เงินเดือนเท่าไหร่” บริกรตอบว่า “450 หยวน” นายกู มู่ฟังแล้วหัวเราะและพูดเล่นว่า “เงินเดือนมากกว่าผมอีกคุณต้องเลี้ยงผม”
ในขณะเดียวกันข้อกังขาและแรงกดดันต่างๆ ก็ถาโถมมาพร้อมๆ กัน มีคำพูดที่ว่า “ที่เมืองเซินเจิ้น นอกจากธงแดง 5 ดาวที่เป็นธงชาติจีนแล้ว อย่างอื่นล้วนเปลี่ยนไปหมด” “เขตเศรษฐกิจพิเศษกลายเป็นช่องทางลักลอบค้าขายไปแล้ว” เป็นต้น
เรื่องเหล่านี้กวนใจผู้นำมณฑลกวางตุ้งและเมืองเซินเจิ้นมาโดยตลอด จนถึงปี 1984 นายเติ้ง เสี่ยวผิงไปตรวจเยี่ยมเมืองเซินเจิ้นเป็นครั้งแรก แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เซินเจิ้นขอความคิดเห็นจากนายเติ้ง เสี่ยวผิง คำตอบคือ “หลังกลับไปปักกิ่งแล้วค่อยว่ากัน” หลังจากนั้นนายเติ้ง เสี่ยวผิง ก็เดินทางไปตรวจเยี่ยมเมืองจูไห่ต่อโดยชมทางการท้องถิ่นว่า “เขตเศรษฐกิจพิเศษจูไห่จัดการได้ดี”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ฝ่ายบริหารเมืองเซินเจิ้นรู้สึกกังวลว่าการที่ท่านเติ้ง เสี่ยวผิงพูดอย่างนี้จะหมายถึงเซินเจิ้นจัดการได้ไม่ดีหรือเปล่า? จึงรีบสั่งเจ้าหน้าที่ไปรอที่เมืองกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง เพราะท่านเติ้งจะไปพักกลางทางหลังเสร็จสิ้นการตรวจเยี่ยมเมืองจูไห่ ค่ำคืนวันสิ้นปีเก่าต้อนรับวันตรุษจีนปี 1985 นายเติ้ง เสี่ยวผิง สะบัดพู่กันจีนเขียนคำตอบว่า “การพัฒนาและประสบการณ์ของเมืองเซินเจิ้นเป็นสิ่งยืนยันว่านโยบายการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษของเราถูกต้อง”