เหตุใดหัวเหว่ยจึงอยู่รอด(1)

วันที่ 28 มีนาคม 2022 ที่เมืองเซินเจิ้น บริษัทหัวเหว่ย (HUAWEI) จัดประชุมผลการดำเนินงานประจำปี 2021 นางเมิ่ง หว่านโจวประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินหรือ CFO ของบริษัท ได้ขึ้นสรุปผลการดำเนินงานของหัวเหว่ยในปี 2021 มีรายได้เป็นเงิน 636,800 ล้านหยวน ลดลง 28.6% มีกำไรสุทธิ 113,700 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 75.9% เมื่อเทียบกับปี 2020

นับเป็นครั้งแรกที่นางเมิ่ง หว่านโจวโชว์ตัวในการประชุมสำคัญของบริษัท หลังกลับสู่มาตุภูมิเมื่อเดือนตุลาคม 2021 เธอกล่าวว่า ครั้งก่อนที่ฉันเสนอจัดประชุมผลการดำเนินงานของบริษัทคือเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก มาตุภูมิก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเช่นกัน ช่วงหลายเดือนที่กลับประเทศ ฉันต้องพยายามเรียนรู้เพื่อตามให้ทัน

นางเมิ่ง หว่านโจวกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ลำบากยากยิ่งสำหรับหัวเหว่ย แต่ปัจจุบันหัวเหว่ยข้ามผ่าน“ความมืดมน” แล้ว

เดือนธันวาคมปี 2018 นางเมิ่ง หว่านโจวถูกจับที่สนามบินแวนคูเวอร์และถูกกักบริเวณที่แคนาดา ซึ่งนับเป็นการเปิดฉากกระบวนการขจัดบริษัทหัวเหว่ยของสหรัฐฯ ด้วยข้ออ้างที่ว่าหัวเหว่ยเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของสหรัฐฯ และมีการใช้มาตรการปราบปรามที่รุนแรงยิ่งขึ้น กระทั่งสั่งบริษัทั่วโลกห้ามขายห้ามผลิตชิประดับสูงให้แก่หัวเหว่ย

แต่ชาวโลกรู้กันถ้วนทั่วว่า สาเหตุที่สหรัฐอเมริกา พยายามขจัดหัวเหว่ยเพราะหัวเหว่ยพัฒนาเร็วมากเกินไป กระทั่งกลายเป็นผู้นำในเทคโนโลยี 5G ของโลก นี่เป็นเรื่องที่ทนไม่ได้

อย่างไรก็ตาม หัวเหว่ยยังอยู่ต่อได้อย่างดี และประกาศสถิติว่า ปี 2021 หัวเหว่ยสร้างรายได้จากอุปกรณ์โทรคมนาคมเป็นเงิน 281,500 ล้านหยวน มีการตั้งระบบ 5G ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ครองสัดส่วน 28.7% ของตลาดอุปกรณ์โทรคมนาคมของโลก จัดอยู่อันดับ 1 ของโลก ส่วนอีริคสันครองสัดส่วน 15% จัดอยู่อันดับ 2 และโนเกีย 14.9% จัดอยู่อันดับ 3 ของโลก