ภาษา:ภาษาไทย

เหตุใดหัวเหว่ยจึงอยู่รอด(1)

criPublished: 2022-05-02 15:45:28
Share
Share this with Close
Messenger Pinterest LinkedIn

ถ้าหากผู้นำระดับสูงของสหรัฐฯ ไม่นั่งเครื่องบินไปบีบบังคับให้ประเทศต่างๆ ยกเลิกหรือไม่ใช่ระบบ 5G ของหวาเหวย ด้วยสาเหตุเป็นภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติ (ชาวโลกก็รู้กันทั่วว่า ประเทศไหนในโลกนี้ที่มีความสามารถในการดักฟังและกำลังดักฟังทั่วโลกอยู่) สัดส่วนในตลาดโลกของหัวเหว่ยคงจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยทีเดียว

ปี 2021 หัวเหว่ยลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีสูงถึง 142,700 ล้านหยวน

คิดเป็น 22.4% ของรายได้ทั้งปี ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หัวเหว่ยมีการลงทุนวิจัยพัฒนาเทคโนยีรวม 845,000 ล้านหยวน จัดอยู่อันดับ 2 ของบริษัททั่วโลก นี่คงเป็นสาเหตุสำคัญที่หัวเหว่ยสามารถอยู่ต่อได้

ผู้บริหารหัวเหวยเคยกล่าวว่า การลงทุนด้านการวิจัยเทคโนโลยีอุปกรณ์โทรคมนาคมของหวยเหวยเป็น 2 เท่าของอีริคสันและโนเกีย นี่เป็นสาเหตุสำคัญที่อุปกรณ์โทรคมนาคมของหัวเหว่ยมีสัดส่วนในตลาดโลกเพิ่มขึ้นมิได้ลดลงแต่อย่างใด ขณะที่สหรัฐฯ พยายามบอกให้บางประเทศรื้อถอนอุปกรณ์ของหัวเหว่ย

ย้อนไปช่วงต้นของบทความ นางเมิ่ง หว่านโจว CFO บริษัทหัวเหว่ยสรุปผลการดำเนินงานในปี 2021 สามารถสร้างรายได้เป็นเงิน 636,800 ล้านหยวน ลดลง 28.6% แต่กำไรสุทธิกลับสูงถึง 113,700 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 75.9% เมื่อเทียบกับปี 2020

สงสัยไหมคะว่าทำไมรายได้ลดลง 28.6% แต่กลับมีกำไรเพิ่มขึ้น 75.9% เพราะเหตุใด

นายกัว ผิง ประธานหมุนเวียนของหัวเหว่ยกล่าวกับสื่อว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ กระทบต่อกิจการต่อผู้บริโภคโดยตรง อาทิ ยอดจำหน่ายของสมาร์ทโฟนลดลงอย่างมาก

ปี 2021 หัวเหว่ยมีรายได้จากกิจการต่อผู้บริโภคโดยตรงเพียงประมาณ 243,400 ล้านหยวน เมื่อเทียบกับปี 2020 ที่สูงถึง 482,900 ล้านหยวน ลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง ทำให้หัวเหว่ยหลุดจากตำแหน่งที่เป็นอันดับ 1 ด้านการจำหน่ายสมาร์ทโฟนของโลก

แต่ขณะเดียวกัน หัวเหว่ยได้ใช้ความพยายามในการพัฒนากิจการที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคด้านอื่นๆ อาทิ อุปกรณ์ที่สวมใส่ได้ อุปกรณ์สุขภาพ การกีฬา บ้านอัจฉริยะ เป็นต้น ปัจจุบัน มีผู้ใช้นาฬิกาข้อมือดิจิตัล Huawei กว่า 100 ล้านคน

首页上一页12 2

Share this story on

Messenger Pinterest LinkedIn