ภาษา:ภาษาไทย

นายหยาง เฉิงจ่าง สมาชิกสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีนกล่าวว่า RCEP จะช่วยให้เสริมแกร่งห่วงโซ่อุตสาหกรรมระหว่างจีนกับประเทศอาเซียน

criPublished: 2022-03-10 14:20:18
Share
Share this with Close
Messenger Pinterest LinkedIn

นายหยาง เฉิงจ่าง สมาชิกสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้ทำรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลจีนต่อการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 13 ครั้งที่ 5 โดยกล่าวเป็นพิเศษว่า ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรือ RCEP ได้กลายเป็นเขตการค้าเสรีใหญ่ที่สุดในโลก สนับสนุนวิสาหกิจใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรและกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า ขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน นายหยาง เฉิงจ่าง สมาชิกสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน นักเศรษฐศาสตร์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไชน่ามีเดียกรุ๊ปว่า ตั้งแต่ RCEP มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคมปีนี้เป็นต้นมา ได้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างเห็นได้ชัด

RCEP ได้ครอบคลุม 10 ประเทศในอาเซียนและจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์รวม 15 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยประเทศที่ให้สัตยาบันความตกลงมีผลบังคับใช้เป็นงวดแรกมีบรูไน กัมพูชา ลาว สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม 6 ประเทศอาเซียนและจีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย 4 ประเทศ

หยาง เฉิงจ่างกล่าวว่า ตั้งแต่ RCEP มีผลบังคับใช้แล้ว ได้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของจีนมากมายโดยเฉพาะได้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่มีการปฏิสัมพันธ์กับโครงสร้างอุตสาหกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเห็นได้ชัด อาทิ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สิ่งทอและของเล่น นอกจากนี้ RCEP มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการกระจายห่วงโซ่อุตสาหกรรมในเวียดนาม และจีน

ตามสถิติของสำนักงานใหญ่ศุลกากรจีนพบว่า สองเดือนแรกปีนี้ ยอดการนำเข้าและส่งออกระหว่างจีนกับคู่ค้า RCEP อยู่ที่ 1.85 ล้าน ๆ ดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 ในจำนวนนี้ ยอดการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนอยู่ที่ 870,470 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 นายหยาง เฉิงจ่าง ระบุว่า หลายปีมานี้ การค้าระหว่างจีนกับอาเซียนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง RCEP ช่วยให้เสริมแกร่งห่วงโซ่อุตสาหกรรมระหว่างจีนกับประเทศอาเซียน

12全文 2 下一页

Share this story on

Messenger Pinterest LinkedIn