นายหยาง เฉิงจ่าง สมาชิกสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีนกล่าวว่า RCEP จะช่วยให้เสริมแกร่งห่วงโซ่อุตสาหกรรมระหว่างจีนกับประเทศอาเซียน
เขากล่าวว่า จีนมีตลาดใหญ่มาก มีระบบอุตสาหกรรมและระบบผลผลิตที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ปัจจุบันมีศักยภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมการผลิตส่วนใหญ่ แต่ต้นทุนการผลิตค่านข้างสูง ยากที่จะลดต้นทุนในกระบวนการผลิต ฉะนั้น จีนกับประเทศอาเซียนควรมีการกระจายห่วงโซ่อุตสาหกรรมอย่างมีเหตุมีผล จนมีความสัมพันธ์ที่อุดหนุนซึ่งกันและกัน จะเพิ่มความร่วมมือด้านการผลิตส่วนภูมิภาคเป็นอย่างมาก
หลังจากใช้ความพยายามมาเกือบ 20 ปี การค้าเสรีของจีนขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ จีนได้ลงนามความตกลงการค้าเสรี 19 ฉบับกับ 26 ประเทศและเขตแคว้น หุ้นส่วนการค้าเสรีได้ครอบคลุมทวีปเอเชีย โอเชียเนีย ลาตินอเมริกา ยุโรปและแอฟริกา ปัจจุบัน จีนกำลังดำเนินยุทธศาสตร์ยกระดับเขตการค้าเสรี กำลังผลักดันยกระดับความตกลงการค้าเสรีซึ่งรวมทั้งเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเวอร์ชัน 3.0 ด้วย นายหยาง เฉิงจ่างเห็นว่า ความสัมพันธ์จีน-อาเซียนมีความคาดหวังที่จะลงลึกอีกบนพื้นฐาน RCEP
เขากล่าวว่า ในเมื่อก่อน การค้าส่วนใหญ่ของจีนเกี่ยวข้องกับการค้าสินค้า การค้าภาคบริการ สองปีมานี้ ได้ขยายความร่วมมือด้านการค้าดิจิทัล การค้าเทคนิค เป็นต้น รูปแบบการค้ามีการยกระดับอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลายปีมานี้ จีนได้นำเสนอการเปิดประเทศอย่างเป็นระบบ กระชับความร่วมมือกับประเทศใกลเคียงอย่างลุ่มลึก เรื่องนี้จะแสดงบทบาทสำคัญต่อการลงลึกและยกระดับการค้า และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของการค้า การลงทุนและการเงินระหว่างจีนกับภูมิภาคอาเซียน
นายหยาง เฉิงจ่างยังได้กล่าวถึงผลกระทบเชิงบวกจาก RCEP ที่มีต่อระบบการค้าโลก เขาเห็นว่า พร้อมไปกับการปรับโครงสร้างการบริหารและระบบการบริหารทั่วโลกรอบใหม่ การกำหนดกฎเกณฑ์ทางการค้าทั่วโลกกำลังยกระดับอีก การลงลึกความร่วมมือด้านการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนมีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดกฎเกณฑ์ทางการค้าพหุภาคีที่มีระดับสูงขึ้นอย่างเป็นเอกภาพทั่วโลก
เขียนโดย ชุย อี๋เหมิง ภาคภาษาไทย สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน