บทวิเคราะห์ - จากการประชุมผู้นำสุดยอดสหรัฐฯ-อาเซียนพิจารณาแนวคิด “ความเป็นศูนย์กลางของอาเซียน”
ระหว่างวันที่ พฤษภาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น การประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐฯ-อาเซียนได้จัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันของสหรัฐฯ ประเด็นของการประชุมครั้งนี้รวมถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า ปัญหาเมียนมา ปัญหาทะเลจีนใต้ วิกฤตยูเครน ตลอดจนสถานการณ์โควิด-19 เป็นต้น มีนักวิเคราะห์ลงความเห็นว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการทดสอบแนวคิด “ความเป็นศูนย์กลางของอาเซียน”
ระหว่างการประชุมครั้งนี้ นอกจากการประชุมอย่างเป็นทางการระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่าย บรรดาผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนยังได้พบปะหารือกันกับผู้แทนรัฐสภา ทางการเมืองและธุรกิจของสหรัฐฯ ด้วย นอกจากนี้ บรรดาผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนยังถือโอกาสนี้พบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ อีกด้วย
นับเป็นครั้งแรกที่บรรดาผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนเจอหน้ากันที่กรุงวอชิงตันหลังจากอาเซียนจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 1967 ในจำนวน 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน มีผู้นำจาก 8 ประเทศได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ นายโรดริโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ไม่ได้ร่วมประชุมเนื่องจากอยู่ในช่วงระยะผ่านหลังการเลือกตั้งโดยทั่วไป แต่เขาจัดส่งนายทีโอโดโร ล็อกซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นตัวแทนของฟิลิปปินส์ไปร่วมการประชุมครั้งนี้ ส่วนเมียนมาไม่มีผู้แทนเข้าร่วมการประชุมเนื่องจากปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ สำหรับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา การเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสการเยือนสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกหลังจากเข้าดำรงตำแหน่งนายกฯกัมพูชาค.ศ. 1998
ปีนี้ครบรอบ 45 ปีของความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียน-สหรัฐ ในที่ประชุมครั้งนี้ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯสัญญาว่า จะลงทุน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่อาเซียนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาด รักษาความปลอดภัยทางทะเล พัฒนาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ จัดการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและพัฒนาสาธารณสุข เป็นต้น แถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมระบุว่า ทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นที่จะสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างอาเซียน-สหรัฐ ที่เป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์ร่วมกันในการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐครั้งที่ 10 ที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีนี้