พรรคคอมมิวนิสต์จีนในสายตาของพลเอกสุรสิทธิ์ ถนัดทาง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
เกี่ยวกับการเรียนรู้และพบปะพรรคคอมมิวนิสต์จีนตั้งแต่ระดับผู้นำจนถึงสมาชิกพรรคฯ ทั่วไปแตกต่าง
จากภาพลักษณ์ที่สื่อตะวันตกรายงานมาก โดยเฉพาะในทัศนะคติของสื่อตะวันตกที่สร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นพรรคการเมืองเผด็จการ ไม่ฟังเสียงหรือไม่มีความเป็นตัวแทนของประชาชน หรือไม่ก็เป็นการดำเนินงานในทางการเมืองโดยพื้นฐานการใช้ความรุนแรง เป็นต้น (ในอดีต คนไทยส่วนมากจะจินตนาการว่า พรรคคอมมิวนิสต์คือกลุ่มคนทำลายสถาบันทางศาสนา ทำลายความเป็นสถาบันครอบครัว แม้แต่การทำลายสถาบันการศึกษา เป็นต้น) ซึ่งในความเป็นจริงแล้วกลับตรงข้ามภาพลักษณ์สื่อตะวันตกรายงานอย่างสิ้นเชิง ซึ่งความแตกต่างนี้สะท้อนให้เห็น แนวคิดพื้นฐาน(paradigm) ของสื่อตะวันตกในด้านทัศนคติตั้งแต่อดีต คือ ข้อวิจารณ์ “ภัยเหลือง-Yellow Threat”ในปลายศตวรรษที่ 19 (ปี ค.ศ.1895) “ข้อวิจารณ์ว่าด้วยภัยคุกคามสีแดง”ในต้นและกลางศตวรรษที่ 20 “ข้อวิจารณ์ว่าด้วยภัยคุกคามจากจีน- The China Threat” และ “ข้อวิจารณ์ว่าด้วยจีนล่มสลาย ” และอาจมีมูลเหตุที่แท้จริง อาทิ การหลอกหลอนของสงครามเย็นยังหลงเหลืออยู่ การขัดกันซึ่งผลประโยชน์ระหว่างประเทศ เป็นต้น
ผู้สื่อข่าว: จากสภาพว่างเปล่าเมื่อเริ่มแรกก่อตั้งประเทศจีนใหม่ จนพัฒนามาเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับที่2 ของโลก ท่านเห็นว่า ในการพัฒนาและผลสำเร็จที่ได้รับของจีนนั้น พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีบทบาทมากน้อยเพียงไร ท่านเห็นว่า เหตุใดพรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงสามารถนำพาประเทศก้าวสู่ความมั่งคั่งและความแข็งแกร่งได้
พลเอกสุรสิทธิ์ ถนัดทาง:ในการพัฒนาและผลสำเร็จที่ได้รับของจีนนั้น พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีบทบาทมากใน 2 ด้าน กล่าวคือ 1) ด้านการยึดมั่นในความคิดชี้นำของพรรคภายใต้การนำของผู้นำจากรุ่นสู่รุ่นซึ่งยึดถือทฤษฎีของลิทธิมาร์กซ์เลนิน ความคิดเหมาเจ๋อตง ทฤษฎีเติ้งเสี่ยวผิง ความคิดสามตัวแทน